(ชมคลิป)ธ.ก.ส.หนองบัวลำภู แจงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พร้อมชูโครงการชำระดีมีคืนลดภาระหนี้เกษตรกร

ธ.ก.ส.หนองบัวลำภู แจงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 พร้อมชูโครงการชำระดีมีคืนลดภาระหนี้เกษตรกรพ่วงมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระทางการเงินแก่ลูกค้าในการลดภาระหนี้และดอกเบี้ยเงินกู้ โครงการชำระดีมีคืน แถมสำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติโครงการลดภาระหนี้สำหรับหนี้เงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน
เมื่อเร็วๆนี้ ณ ห้องประชุมชวนพิศโรงแรมณัฐพงษ์แกรนด์ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู นายธรรมรัตน์ ยศเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วยผู้จัดการ ธ.ก.ส.ทุกสาขา ของจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกันแถลงข่าวนโยบายและมาตรการสนับสนุนการจ่ายเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม เป็นธรรมคุ้มค่ากับการผลิตและดำเนินมาตรฐานคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ไม่ให้ตกต่ำในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเพื่อช่วยเหลือด้านการเงินแก่เกษตรกรในระหว่างรอการขายผลผลิต พ่วงมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระทางการเงินแก่ลูกค้าในการลดภาระหนี้และดอกเบี้ยเงินกู้ โครงการชำระดีมีคืน แถมสำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติโครงการลดภาระหนี้สำหรับหนี้เงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน
นายธรรมรัตน์ฯ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาข้าว โดยกลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ โดยประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ซึ่งจะมีคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง ประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการ ความชื้นข้าวเปลือกแต่ละชนิดไม่เกิน 15% โดยเกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 กับกรมส่งเสริมการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่จะได้รับสิทธิชดเชย

ในส่วนของ สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 ให้กับเกษตรกร จำนวน 49,212 ราย เป็นเงิน 218,263,420.73 บาท พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการภายใต้มาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวประกอบไปด้วย โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรปีการผลิต 2563/64 เพื่อช่วยให้สถาบันเกษตรกรเข้ามามีบทบาทในการช่วยดูดซับปริมาณข้าวเปลือกในตลาดโดยรวบรวมและรับซื้อข้าวจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป นำมาเก็บรักษาตามเกณฑ์มาตรฐานเพื่อรอการขายหรือนำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี โดยสถาบันเกษตรกรจะได้รับวงเงินกู้ ตามศักยภาพ แผนธุรกิจ และไม่เกินวงเงินที่นายทะเบียนกำหนด ระยะเวลาตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2564 กำหนดระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ตามรอบธุรกิจแต่ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2564

นายธรรมรัตน์ฯ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวเพิ่มเติมอีกว่านอกจากโครงการตามนโยบายรัฐดังกล่าวแล้วทาง ธ.ก.ส. ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระทางการเงินแก่ลูกค้าในการลดภาระหนี้และดอกเบี้ยเงินกู้ อีก2 โครงการดีๆได้แก่โครงการชำระดีมีคืน สำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติ โดยลูกค้าเกษตรกรและบุคคล ที่มีสัญญาเงินกู้ที่มีต้นเงินเป็นหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 เว้นแต่สัญญาเงินกู้ตามโครงการที่ได้รับการชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล และสัญญาเงินกู้ที่ตามธนาคารกำหนด การคืนดอกเบี้ยธนาคารจะโอนคืนดอกเบี้ยเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกินรายละ 5,000 บาท กรณี กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่จ่ายจริง ไม่เกิน 50,000 บาท กรอบวงเงินงบประมาณคืนดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการฯ ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 เว้นแต่กรณีวงเงินงบประมาณหมดก่อนวันสิ้นสุดโครงการ และโครงการลดภาระหนี้สำหรับหนี้เงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน โดยเกษตรกรและบุคคล ที่มีสัญญาเงินกู้ที่มีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 เว้นแต่ สัญญาเงินกู้ตามโครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล และสัญญาเงินกู้ที่ธนาคารกำหนด การคืนดอกเบี้ยธนาคารจะนำดอกเบี้ยที่คืนให้มาลดภาระหนี้ด้วยการตัดชำระต้นเงิน กรณีไม่มีต้นเงินคงเหลือจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง กรณีกลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นิติบุคคลและกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จะได้รับคืนดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564
ทีมข่าวอีสานเดลี่ออนไลน์ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู